คริส แอนเดอร์สัน นกเสรีของวงการบาสเอ็นบีเอ

สำหรับแฟนบาสเกตบอลเอ็นบีเอแล้ว คริส “เบิร์ดแมน” แอนเดอร์สัน เป็นเรื่องราวอย่างหนึ่งของเกมยัดห่วง เมื่อเขาก้าวเข้ามา เติบโต มีชื่อเสียง ตกเป็นข่าวอื้อฉาว ร่วงหล่น และกลับคืนมาอีกครั้ง ภายใต้ภาพลักษณ์แบดบอยที่ดิบเถื่อนและเต็มไปด้วยรอยสักสีสันบาดตา

ในปี 2002 คริส แอนเดอร์สันเป็นผู้เล่นคนแรกก้าวกระโดดจาก D-league ของปิรามิดการแข่งขันบาสเกตบอลของอเมริกาสู่ลีก NBA แต่ช่วงเวลาก่อนหน้านั้นก็ดูน่าอึ้งเช่นกัน

สามปีก่อนหน้าที่จะเดินลงสนามเอ็นบีเอ คริสลาออกจากวิทยาลัยบลินน์เพราะเชื่อมั่นว่าตัวเองจะต้องได้เล่นบาสอาชีพ แต่เขาหลุดสารบบการดร้าฟท์ตัวซึ่งเป็นด่านแรกสู่เอ็นบีเอ เขาเลยต้องไปเล่นเกมพิเศษที่เมืองจีน และได้รับการชักชวนให้เข้าร่วมทีมเจียงสู นานกิง ดราก้อนส์ หนึ่งปีต่อมาเขาก็ย้ายกลับอเมริกาเพื่อร่วมทีมกับนิว เม็กซิโก สแลม แต่ผลงานเฉลี่ย 1.1 แต้มกับ 1.6 รีบาวนด์กับการลงเล่น 10 เกม มันห่วยแตกจนคริสต้องกระเด็นจากทีม หลังจากนั้นก็ไปอยู่กับดาโกต้า วิซาร์ดแบบยังไม่ทันลงเล่นก็ย้ายทีมไปฟาร์โก้ มอร์เฮด บีซ์ แค่ 7 เกมที่บีซ์ คริสโดนเขี่ยทิ้งและได้ไปเล่นให้ซูการ์แลนด์ ชาร์ก ในลีกภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ โดยยังไม่ได้เฉียดกรายเข้าใกล้เอ็นบีเอเลย

ปีต่อมาคริสเข้าไปแจมกับคลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ช่วงสั้น ๆ แล้วก็ไปเซ็นสัญญากับฟินิกส์ ซัน แต่สุดท้ายกลายเป็นฟาร์เย็ตวิลล์ แพทริอ้อตท์ที่ดร้าฟท์เขาเข้าทีม ซึ่งเป็นแค่ทีมในระดับรอการพัฒนาของวงการบาสที่เรียกว่า Development League หรือ D-league

คริส แอนเดอร์สันถูกกล่าวถึงอย่างหนักเมื่อเดนเอวร์ นักเก็ตส์คว้าตัวเขาจากฟาร์เยตวิลล์หลังเล่นไปได้แค่ 2 เกมเพื่อดึงมาเล่นในลีกสูงสุดของวงการบาส ตอนนั้นเองที่คริสยังเป็นแข้นักบาสหน้าใหม่ที่มีรอยสักกระจุ๋มกระจิ๋ม

ปี 2001 ความโดดเด่นในการรีบาวด์และการบล็อกชู้ตทำให้คริส แอนเดอร์สันกลายเป็นผู้เล่นระดับท็อปอย่างรวดเร็ว เขาถูกขนานนามว่าเป็นเบิร์ดแมน หรือมนุษย์นกผู้กางปีกปกป้องห่วงของทีม พอถึงปี 2004 นิวออร์ลีน ฮอร์เน็ตส์ก้าวเข้ามาคว้าตัวเบิร์ดแมนไปร่วมทีม ในปีนั้นเขาเริ่มมีรอยสักที่ระบายสีสันลงไปแทนลายเส้นสีดำเดิม ๆ ทว่าในปี 2006 คริสก็ต้องถูกเขี่ยทิ้งจากวงการเมื่อไม่ผ่านการตรวจเรื่องสารเสพติด

ช่วงเวลาที่เขาออกไปจากวงการ หาทางแก้ต่างให้ตัวเองพ้นจากข้อกล่าวหาเรื่องสารเสพติด คริมเข้ารับการบำบัดพฤติกรรมไปพร้อมกัน และทำงานเป็นโค้ชทีมเด็กของเดนเวอร์ไปพลาง ๆ จนถึงปี 2008 ข่าวดีก็มาถึงเมื่อเขาได้รับการตัดสินให้พ้นข้อกล่าวหา เขาได้รับสิทธิ์กลับเข้าสู่วงการบาสและเป็นนิวออร์ลีน ฮอร์เน็ตส์ที่อ้าแขนรับเขากลับสู่ทีม

การกลับมาของคริส แอนเดอร์สันในบุคลิกใหม่ ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่แฟนบาสโปรดปราน เช่นเดียวกันกับสีสันรอยสักของแอนเดอร์สันที่ถูกเติมเต็มอย่างเต็มที่

หลังจาก 4 ปีระหว่าง 2008-2012 ที่โดดเด่นกับเดนเวอร์ นักเก็ตส์อีกทีมเก่า ไมอามี่ ฮีตก็ดึงคริสไปร่วมทีม และเขาก็ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ได้ในปี 2013 เป็นก้าวสูงสุดของเขา เช่นเดียวกับกับเรือนร่างที่สมบูรณ์ด้วยสีสันของรอยสัก

คริส “เบิร์ดแมน” แอนเดอร์สัน ใช้ชีวิตของเขาอย่างเต็มที่ เขาเป็นคนที่รักอิสระมากจนบางครั้งก็เกินขนาด แต่เมื่อเขาเริ่มเรียนรู้การควบคุมตัวเองก็สามารถใช้อิสระได้อย่างถูกที่ถูกทาง ซึ่งมันสมกันกับรอยสักบนลำคอว่า “Free Bird” นกที่บินอย่างอิสระและได้รับการยกย่องในอิสระนั้น