พลังแห่งความฝันของเนย์มาร์ ที่เล่าผ่านการสักเรือนร่าง


“ผมเติบโตมากับสองความความฝัน เหมือนเด็กชายชาวบราซิลทั่วไปที่อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และอีกฝันคืออยากเป็นซุปเปอร์ฮีโร่” นี่คือคำบอกเล่าของเนย์มาร์ นักเตะชาวบราซิล

ปี 2017 เนย์มาร์กลายเป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก 222 ล้านยูโรในการย้ายทีมจากสโมสรบาร์เซโลน่า ทีมในลาลีก้า ประเทศสเปนไปอยู่กับสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในลีกประเทศฝรั่งเศส

เด็กชายเนย์มาร์เกิดในชุมชนแออัดชื่อโมกี้ ดาส ครูซส์ใกล้เมืองเซา เปาโลของประเทศบราซิล เนย์มาร์ ซานโตส ซีเนียร์ พ่อของเขาเป็นนักฟุตบอลที่ไม่ประสบความสำเร็จและต้องเลิกเล่นด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บ เขาไม่มีเงินแม้แต่จะทำอัลตร้าซาวด์ตอนภรรยาตั้งท้องเนย์มาร์ด้วยซ้ำ ดังนั้นไม่ต้องคาดหวังว่าเนย์มาร์จะเติบโตมาแบบมีอันจะกิน เพราะบางช่วงของชีวิตในโมกี้ ดาส ครูซส์ ครอบครัวเนย์มาร์อยู่ด้วยแสงเทียนไม่ใช่จากหลอดไฟฟ้า แต่หลังจากเนย์มาร์เกิด ครอบครัวทนอยู่ที่โมกี้ต่ออีกหลายปี ในที่สุดเนย์มาร์ ซีเนียร์ก็ยอมจำนนและเดินทางกลับบ้านพ่อที่เซา วิเซนเต้ ที่ซึ่งคุณภาพชีวิตเนย์มาร์ดีขึ้นอีกเล็กน้อยในการอาศัยอยู่กับปู่และย่า

เนย์มาร์ถูกตั้งความหวังว่าเขาจะต้องเติบโตมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ อันจะนำมาซึ่งความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัว ดังนั้นเขาถูกฝึกอย่างหนักตั้งแต่เด็ก เนย์มาร์เริ่มวิ่งไล่ตามความฝันด้วยความอดทนเพื่อครอบครัว ไม่ช้าฝีเท้าของเขาก็ดีพอที่จะได้เข้าไปอยู่ในอะคาเดมี่ของสโมสรซานโตส สโมสรอันดับหนึ่งของเซา เปาโล และความจริงอย่างหนึ่งคือฝีเท้าของเขาไปเตะตาแมวมองระหว่างที่เตะบอลข้างถนนในวิเซนเต้นั่นเอง

เรื่องราวชีวิตและความฝันในวัยเด็กของเขาถูกสักไว้บนน่องซ้าย เป็นรูปเด็กชายไม่สวมเสื้อ สวมหมวกมีรูปธงบราซิล ยืนหันหลังกอดลูกฟุตบอลไว้ด้วยมือขวา แหงนหน้ามองชุมชนโมกี้ ดาส ครูซส์ เหนือสุดของรูปเป็นความฝันสามอย่างได้แก่บ้าน สนามฟุตบอล และถ้วยแชมเปี้ยนลีก เนย์มาร์เผยว่าเขาต้องสักมันไว้เพื่อใช้เป็นตัวระลึกถึงความจำเป็นที่เขาต้องสู้

เนย์มาร์ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในการเล่นฟุตบอลที่บ้านเกิด เขาเซ็นสัญญาอาชีพตั้งแต่อายุ 16 ปี พาสโมสรซานโตสคว้าแชมป์ลีกแห่งชาติบราซิลได้ตั้งแต่อายุ 17 ปี พออายุ 19 ปี เขาก็พาทีมเป็นแชมป์ฟุตบอลรายการใหญ่สุดของทวีปอเมริกาใต้ หลังจากนั้นก็ย้ายมายังยุโรปด้วยค่าตัวเป็นที่ฮือฮาในยุคนั้นราว 88 ล้านยูโรที่บาร์เซโลน่ายอมทุ่มให้ ก่อนที่ในเวลาต่อมาปารีส แซงต์ แชร์กแมงจะตีราคาของเขาให้เป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวสูงที่สุดในโลก แน่นอนว่าเนย์มาร์สามารถทำเงินได้ปีละมหาศาลจากการเป็นนักเตะอาชีพ เขามีบ้านหลังใหญ่เท่าที่อยากซื้อ เป็นนักกีฬาเหรียญทองในการแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิก เป็นนักกีฬาอาชีพที่มีค่าตัวมหาศาลและคว้าแชมป์ฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่สุดกับบาร์เซโลน่าในปี 2016 ก่อนสักรูปถ้วยแชมป์ไว้เป็นที่ระลึกบนน่องอีกข้าง มันเป็นการทำ 3 ความฝันของเขาสำเร็จหมดแล้วในวัยแค่ 25 ปีเท่านั้น

กับอีกความฝันที่เป็นไปไม่ได้ในชีวิตจริง นั่นคือการมีพลังเหนือธรรมชาติแบบฮีโร่ ในเมื่อมันเป็นจริงไม่ได้ ฉะนั้นมันจะเป็นอะไรไปหากว่าเขาจะกลายเป็นตัวการ์ตูนที่มีพลังวิเศษแทน เพียงแต่ว่ามันต้องรอเวลาที่เหมาะสม รอการเขียนเรื่องราวที่ใช่ และรอนักเขียนที่ถูกคน จนกระทั่งเดือนกันยายนที่ผ่านมา เนย์มาร์ก็ปรากฏตัวในรูปแบบคอมมิคซุปเปอร์ฮีโร่

นั่นคือในขณะที่เนย์มาร์เติบโตมาพร้อมกับความฝัน, รอยสักและความอยากเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ เขามีรูปแบทแมนและสไปเดอร์แมนบนแผ่นหลัง ซึ่งเพิ่งสักมาเมื่อไม่นานนี้ ขณะที่คริส ฟรานเนรี่ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ของทีมแฟน ออฟ เฟลม ซึ่งเป็นทีมเขียนการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่ ก็จินตนาการไว้ว่าอยากได้ฮีโร่ที่มีพลังวิเศษบังคับรอยสักให้มีชีวิตได้ และมันก็กลายมาเป็น “Inked” คอมมิคซีรี่ย์ที่ชูตัวเนย์มาร์เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ผู้มีพลังดึงรอยสักรูปสิงโตบนมือซ้ายของเขาให้ออกมามีชีวิต

“พวกเขาเขียนเรื่องราวในคอมมิคขึ้นมาให้สอดคล้องกับเรื่องราวชีวิตของผม ตั้งแต่เด็กแล้วผมโตมาโดยมีแบทแมนเป็นฮีโร่ในดวงใจ ผมหวังว่าตัวผมในคอมมิคจะเป็นแรงบันดาลใจและสร้างความบันเทิงให้กับคนทั่วโลกได้” เนย์มาร์เล่าถึงคอมมิคฮีโร่ของเขาอย่างภาคภูมิใจ และมันก็ทำให้ความฝันของเขาสำเร็จอีกเรื่องในวัย 26 ปีเท่านั้นเอง