รอยสักมวยไทย ความเชื่อความศรัทธาที่กลายเป็นความนิยมระดับนานาชาติ

ศิลปะการต่อสู้มวยไทยได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่มาเรียนรู้ศิลปะมวยไทยเท่านั้น แต่ชาวต่างชาติบางคนพัฒนาจนกลายเป็นนักมวยไทยอาชีพ ซึ่งนอกจากจะเรียนรู้การต่อสู้แล้ว พวกเขายังได้เรียนรู้ความเชื่อตามแบบวิถีคนไทยและนักมวยไทย รวมถึงเรื่องของการสักด้วย

ในมุมมองชาวต่างชาติที่มองเรื่องการสักเป็นเพียงความสวยงามหรือความชอบเท่านั้น แต่เมื่อมาเรียนรู้เรื่องหมัดมวยในประเทศไทย พวกเขาได้มิติอื่นของรอยสักว่ามันมีการสักยันต์เพื่อเหตุผลทางใจที่เกิดจากความเชื่อทางศาสนาด้วย เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับรอยสักพวกพระเจ้า พระเยซูหรือปีศาจต่างๆ ที่ชาวตะวันตกนิยม รอยสักยันต์ของไทยมีความหมายและความขลังมากกว่า

เดิมทีรอยสักหรือการสักยันต์ของไทยปรากฏเกี่ยวข้องกับทางศาสนา ทั้งเรื่องสักเพื่อเพิ่มอำนาจบารมี สักเพื่อความอยู่ยงคงกระพัน โดยการใช้ทั้งการสักแบบโบราณด้วยเข็มติดปลายไม้ไผ่ น้ำหมึกพิเศษที่มีสีดำ รวมถึงการบริกรรมคาถาระหว่างการสักด้วย นักรบไทยสมัยโบราณจึงมีรอยสักประดับร่างกายในฐานะเครื่องคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย แม้เวลาผ่านมาการสักยันต์ก็ยังคงได้รับความนิยม แต่เปลี่ยนแนวทางไปสู่รูปแบบที่เน้นเหตุผลเฉพาะเช่น สักเพื่อเป็นพุทธ  คุณ สักเป็นเมตตามหานิยม

รอยสักยันต์ที่นักมวยไทยและนักมวยต่างชาติชื่นชอบมากในปัจจุบันคือการสักรอย “ฮะแทว” หรือที่เรียกกันว่าสักรอย 5 แถว เป็นรอยสักที่มีลักษณะเป็นแถวยาว 5 แถวซึ่งดูสวยงามในตัวเอง ไม่มากไป ไม่น้อยไป แถมมีฤทธิคุณศักดิ์สิทธิ์มาก ให้ทั้งความคุ้มครอง มอบความสุขและความสำเร็จแก่ผู้สวมใส่รอยสักนี้ มันจึงได้รับความนิยมในหมู่ศิลปิน ดาราด้วย

อีกหนึ่งรอยสักที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งในหมู่นักมวยและคนทั่วไปคือการสัก “9 ยอด” หรือปราสาท 9 ยอด เป็นการจำลองยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 9 อันได้แก่เข้าพระสุเมรุและบริวารนั่นเอง รอยสักนี้มีลักษณะเป็นเรขาคณิต ทำให้มันเป็นอีกลวดลายที่ดูแล้วไม่เลอะเทอะ และความที่มันมีคุณในการคุ้มครองจากวิญญาณชั่วร้ายต่างๆ และช่วยให้ชีวิตประสบความสุข ยันต์ 9 ยอดจึงเป็นที่นิยมมาก

นอกจากสองลวดลายดังกล่าวแล้ว อีก ลายสักยันต์ที่ชาวต่างชาติซึ่งมาหัดมวยไทยนิยมสักไว้คุ้มครองตัวได้แก่ รอยสักเสือผ้ายันต์ ซึ่งเป็นรอยสักที่นับได้ว่าสวยงามที่สุดรอยสักหนึ่ง เป็นรอยสักที่มีความสมดุลแบบซ้ายขวาเท่ากัน  เมื่อสักเพียงลวดลายเดียวบนแผ่นหลังก็เกิดความสวยงามแล้ว

รอยสักหนุมานก็เป็นอีกหนึ่งรอยสักที่บรรดานักมวยชื่นชอบ ซึ่งรอยสักหนุมานนี้มีความหลากหลายของลวดลายและท่าทางมาก ทั้งแผลงศร ยึดศร จับอาวุธ มีตั้งแต่ 2 กรไปถึง 8 กร มีความสวยงามในท่วงท่าลีลาทั้งอ่อนช้อยและน่าเกรงขาม มันจึงกลายเป็นหนึ่งรอยสักยันต์ที่ครองใจนักมวยไทยทั้งหลายและสืบต่อไปถึงนักมวยต่างชาติด้วย

ศิลปะมวยไทยนอกจากจะช่วยส่งต่อเอกลักษณ์เกี่ยวกับการต่อสู้แล้ว ในเชิงความเชื่อความศรัทธาที่ถ่ายทอดผ่านรอยสักต่างๆ ชาวต่างชาติที่ได้เรียนรู้และทำความเข้าใจก็พบว่ามันมีความลึกซึ้งกว่ารอยสักแบบทั่วไปที่พวกเขาเคยนิยมหรือได้เป็นเจ้าของมา จากที่เคยมองว่ารอยสักแบบไทยดูเท่ห์ แปลกตา เมื่อได้สัมผัสถึงที่มาและความหมาย ตลอดจนสรรพคุณในการคุ้มครอง รักษาและส่งเสริม มันจึงกลายเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่ชาวต่างชาติยินดีครอบครอง