ลูคัส ดีญ ผมไม่เคยเดินเดียวดายในเมืองที่คุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย

ในเมืองลิเวอร์พูลมีสองสีจากสองสโมสรฟุตบอลใหญ่ หนึ่งคือสีแดงของลิเวอร์พูล และอีกหนึ่งคือสีน้ำเงินของเอฟเวอร์ตัน ในสายตาของคนนอกที่อาจจะได้ยินชื่อเสียงของลิเวอร์พูลมากกว่าจะแบ่งพวกเขาเป็นที่หนึ่งหรือที่สอง แต่สำหรับคนเมืองนี้พวกเขาต่างก็เป็นที่หนึ่ง และอีกทีมคืออีกหนึ่งเสมอ

ลิเวอร์พูลเติบโตก้าวไปไกลกว่าในอาณาจักรฟุตบอลที่ครอบคลุมไปทั่วโลก สโลแกนของพวกเขาที่ว่า You’ll never walk alone กลายเป็นวลีอมตะ ดังนั้นหากใครสักคนที่เปลี่ยนแปลงถ้อยคำนี้ไป เขาต้องไม่ใช่แฟนบอลลิเวอร์พูลแน่นอน และ ลูคัส ดีญนักเตะหน้าใหม่ของเอฟเวอร์ตันคือใครคนนั้น

ไม่กี่วันหลังมีข่าวผู้เล่นสัญชาติฝรั่งเศสรายนี้ย้ายจากบาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่ในสเปนมาอยู่เอฟเวอร์ตันตอนก่อนเปิดฤดูกาล 2018 นี้เอง มีคนตาดีไปสังเกตเห็นรอยสักพาดบนหน้าอกของดีญในตอนที่เขาเข้ารับการตรวจร่างกาย ข้อความนั้นเขียนว่า “I Never Walk Alone” แล้วจากนั้นก็เกิดเป็นไวรัลเรื่องนี้บนโลกโซเชียล เดือดร้อนดีญต้องออกมาเฉลยว่ามันไม่เกี่ยวข้องกับอีกสโมสรร่วมเมืองที่ชื่อลิเวอร์พูลเลย แม้ว่าเขาจะถูกตามจีบจากสโมสรสีแดงมาแล้วถึงสองครั้งก็ตาม

ผมปฏิเสธการย้ายไปอยู่กับพวกเขาตั้งสองรอบเชียวนะดีญหมายถึงการที่เขาเลือกย้ายจากลีลล์ไปปารีส แซงต์ แชร์กแมงในครั้งแรก และย้ายไปบาร์เซโลน่าในครั้งที่สอง ซึ่งเป็นการเลือกปฏิเสธคำชักชวนจากสโมสรลิเวอร์พูล

คำอธิบายที่ดีญเลือกกล่าวถึงเรื่องรอยสักนี้เกี่ยวข้องกับวัยเด็กของเขา ในตอนสามหรือสี่ขวบที่เขาไปโรงเรียนครั้งแรก พ่อกับแม่สวมสร้อยคอที่มันเขียนคำนี้ไว้ จนกระทั่งอายุ 18 เขาก็ตัดสินใจสักข้อความนี้ไว้บนหน้าอก มาถึงตรงนี้ดีญเชื่อว่าแฟนบอลลิเวอร์พูลที่ไม่รู้ความจริงของมันก็คงนึกโกรธเพราะเขาเซย์ โนใส่ทีมที่พวกนั้นรักตั้งสองครั้งสองครา

You’ll never walk alone เสมือนบทเพลงประจำชาติของชาวหงส์แดง บทเพลงนี้เริ่มต้นมาจากเพลงของริชาร์ด ร็อดเจอร์กับออสการ์ แฮมเมอร์สไตน์ที่ 2 ที่ช่วยกันบรรจงแต่งขึ้นมาในปี 1945 สำหรับใช้ในละครเพลง Carousel ละครเพลงเรื่องที่สองที่พวกเขาจัดแสดง หลังจากนั้นอีก 18 ปี แกรี่ แอน เดอะ พีชเมกเกอร์ วงบอย กรุ๊ป สไตล์เดียวกันกับวงเดอะ บีทเทิ้ลก็เอามันมาขับร้องใหม่ในสไตล์ปัจจุบันและมันขึ้นติดท็อป ชาร์ตเพลงในปี 1963

บิล แชงค์ลี่ย์คือผู้จัดการทีมคนสำคัญที่รับเอาเพลงนี้เข้ามาสู่สโมสรอย่างเป็นทางการ ทีแรกก็เป็นแค่เรื่องราวของคนในสโมสรและแฟนบอล แต่ในอีก 2 ปีให้หลัง เมื่อแฟนบอลลิเวอร์พูลร้องเพลงนี้หลังเกมเอาชนะลีดส์ในนัดชิงเอฟเอคัพ 1965 ที่เวมบลีย์ เคนเน็ธ โวลส์เท่นโฮล์ม คอมเมนเตเตอร์ในวันนั้นพูดขึ้นมาว่า นี่มันเป็นลายเซ็นทางเสียงของสโมสรลิเวอร์พูลเลยนะ

ตั้งแต่นั้นมาเรื่องราวของบทเพลง You’ll never walk alone ก็สืบสานผ่านการร้องของเหล่าแฟนบอลลิเวอร์พูล แล้วก็ขยายไปเป็นเพลงประจำของอีกหลายสโมสรในยุโรป กลายเป็นแรงบันดาลใจให้อีกหลายสโมสรและหลายชาติสร้างเพลงที่เป็นธีมของพวกเขาขึ้นมา แต่หากพูดถึง You’ll never walk alone แล้วก็ต้องนึกถึงลิเวอร์พูลเป็นอันดับแรกนั่นแหละ

ลูคัส ดีญ กับข้อความที่เพี้ยนไปจากประโยคที่คนทั้งโลกรู้จัก กลายเป็นความสงสัยใคร่รู้ แม้คำอธิบายว่ามันเกิดขึ้นจากข้อความบนสร้อยคอเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว และเขาก็สักมันตั้งแต่ตอนอายุ 18 ด้วย มันจะเป็นไปได้ไหมว่าแท้จริงแล้วเขาแค่จำข้อความผิด และที่จริงแล้วมันคือข้อความเดียวกัน