โรเบอร์โต้ ฟีร์มีโน่, ลิเวอร์พูล, รอยสักตัวพ่อ

บาสเกตบอลเอ็นบีเอคือลีกบาสอันดับหนึ่งของโลก และเป็นกีฬาครองใจชนชาวอเมริกันมาอย่างยาวนาน วิธีการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อทีมหรือผู้เล่นของชาวอเมริกันมีหลากหลายแบบ บางคนเลือกการสะสมการ์ด บางคนก็สะสมเสื้อ รองเท้า และแฟนพันธุ์แท้ของศึกยัดห่วงเอ็นบีเอบางคนก็มีวิธีแสดงออกถึงความชื่นชอบในทีมด้วยการสักลวดลายเกี่ยวกับทีมโปรดหรือทีมประจำเมืองไว้ ทั้งแบบรูปภาพและข้อความ

ตอนนี้เหล่าแฟนพันธุ์แท้เอ็นบีเอได้เริ่มต้นแนวทางใหม่ในการแสดงให้เห็นว่าพวกเขารักหรือชอบใครด้วยการสักรูปผู้เล่นรายนั้น ๆ ลงบนร่างกาย และคนที่มีชื่อเสียงในการสักภาพเหมือนจริงจนถูกเรียกว่าราชาในปัจจุบันคือชายที่ชื่อ สตีฟ บุทเชอร์

ตัวสตีฟ บุชเชอร์นั้นเข้าสู่วงการช่างสักเมื่อ 7-8 ปีที่แล้วหลังเรียนจบด้านศิลปะ และเริ่มต้นสร้างชื่อในการสร้างสรรค์งานภาพเหมือนจริงทั้งคนและภาพถ่ายตั้งแต่นั้น โดยมีพื้นฐานสำคัญคือการที่เขาเป็นคนวาดภาพสีน้ำมันได้สวยงามเหมือนจริงมาก

บุทเชอร์เริ่มต้นเรื่องราวการเป็นคนวาดภาพตั้งแต่ 7 ขวบ โดยรูปภาพแรกที่เขาวาดคือเรื่องดราก้อนบอล แซด การ์ตูนขวัญใจเด็กจากญี่ปุ่น ก่อนจะตกหลุมรักในการวาดรูปและเลือกเดินทางสายนี้อย่างจริงจังด้วยการเข้าเรียนในวิทยาลัยด้านศิลปะไวท์คลิฟฟ์ และจบระดับปริญญาตรีจากสาขา Fine Art ซึ่งเป็นสาขาที่ไม่ได้ปิดกั้นการผลิตผลงานศิลปะว่าต้องมีรูปแบบใด ดังนั้นเมื่อถูกชักชวนให้ลองทำงานเกี่ยวกับการเป็นช่างสัก บุทเชอร์ก็กล้าที่จะเปิดใจและเข้าไปลองเรียนรู้

โชคดีที่บุทเชอร์ได้มีโอกาสทำงานกับช่างสักฝีมือดีระดับโลกหลายราย บวกกับความสามารถในการวาดภาพได้เหมือนจริงมาก ทำให้ชื่อเสียงของบุทเชอร์ถูกบอกกล่าวกันต่อ ๆ ไปจนมีชื่อเสียงรู้จักกันในระดับโลก

บุทเชอร์ หรือที่รู้จักกันในฉายา ‘The Kiwi’ เพราะเจ้าตัวเกิด เรียนและทำงานศิลปะอยู่ในเมืองโอ๊คแลนด์ของนิวซีแลนด์ ที่ซึ่งห่างไกลจากสนามแข่งขันบาสเกตบอลเอ็นบีเออย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าของฉายา เดอะ กีวี่ก็เป็นที่หมายปองของบรรดาแฟนบาสเกตบอลชาวอเมริกันที่จะบินข้ามน้ำข้ามทะเลมายังนิวซีแลนด์เพียงเพื่อให้เขาสักรูปนักบาสเกตบอลคนโปรดไว้ตรงส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ซึ่งด้วยฝีมือระดับบุทเชอร์แล้ว ภาพเหล่านี้เหล่าสาวกพันธุ์แท้ย่อมยินดีที่จะอวดคนไปทั่ว

รูปภาพงานสักของบุทเชอร์ไม่เพียงแต่ไปปรากฏสู่สายตาแฟนบาสเกตบอลเท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้งานของเขามีชื่อเสียงและถูกยกให้เป็นราชางานสักแบบนี้นั่นก็เพราะสื่อโทรทัศน์ช่องต่าง ๆ รวมถึงเว็บไซต์บาสเกตบอลทั่วโลกออนไลน์ มักนำภาพที่เกิดจากการลงเข็มของเขาขึ้นจออยู่เสมอ ทำให้ชื่อเสียงของเขาดังขึ้นจนอยู่เหนือใคร ๆ

ในการสร้างสรรค์งานหนึ่งชิ้นของบุทเชอร์ถือว่าเป็นการต่อสู้ที่ทรหดมากทั้งคนสักและคนถูกสัก เพราะแต่ละภาพใช้เวลาอย่างน้อย ๆ 17-18 ชั่วโมงเพื่อให้ได้ภาพที่สวยสมจริง

บุทเชอร์เล่าว่าการสักลายก็คือการระบายออกถึงแรงผลักดันในตัวของคนแต่ละคน ในฐานะศิลปินเขาคือที่ตอบสนองความสนใจของลูกค้าและสร้างความสุขร่วมไปพร้อมกัน เพราะนับตั้งแต่วันแรกที่เขาไปสักรูปภาพบนร่างกายตัวเอง เขาก็รู้ว่าหัวใจของงานนี้คืออะไร มันคือส่วนผสมของความพึงพอใจและความสุขของทั้งสองฝ่าย