โพลีนีเซียน แทททู รอยสักแห่งชาวทะเลใต้

ถ้าจะพูดถึงรอยสักที่ปัจจุบันได้รับความนิยมมากรูปแบบหนึ่ง ก็คือรอยสักแบบชาวโพลีนีเซียน ซามัว และเมารี ซึ่งเป็นการสักหมึกดำที่ดูแล้วมีเอกลักษณ์ มีเสน่ห์และสวยงาม

นักกีฬาและดารานักแสดงดังอย่าง “เดอะร็อค” ดเวย์ จอห์นสันได้ทำให้ลวดลายรอยสักแบบโพลีนีเซียนได้รับความนิยมมาก หลังจากที่มันปรากฏบนหนังและสื่อต่าง ๆ รอยสักของดเวย์ จอห์นสันเหมือนเขาสวมเกราะไหล่เอาไว้ เมื่อบวกกับรูปร่างแบบนักกีฬาร่างใหญ่ มันทำให้เขาดูเหมือนเป็นนักรบที่เก่งฉกาจคนหนึ่ง ภาพลักษณ์นี้ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยพากันเดินเข้าร้านสักเพื่อสร้างลวดลายเลียนแบบดาราคนโปรด รวมไปถึงลวดลายที่ใกล้เคียงกัน

สิ่งที่ทำให้รอยสักแบบโพลีนีเซียนได้รับความนิยมมาจากลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งสามารถเป็นไปได้ตามจินตนาการของผู้ออกแบบ แต่หากลงลึกไปถึงเรื่องราวรอยสักตามความเชื่อของชาวโพลีนีเซียนแล้ว ร่างกายของพวกเขาก็เหมือนภาชนะสำหรับพิธีกรรม มีความเชื่อเกี่ยวกับพลังศักดิ์สิทธิ์ของธรรมชาติที่เรียกว่า Mana รวมไปถึงความเชื่อเกี่ยวกับความมืด ความตาย ความอุดมสมบูรณ์ ความสุข เรื่องความเชื่อนี้ถูกถ่ายทอดเป็นเรื่องราวบนเส้นสายของรอยสักที่ส่งผ่านกันจากรุ่นสู่รุ่น และที่สำคัญมันเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกชนชั้นของพวกเขาไปในตัว โดยทุกเส้นสายนั้นจะบอกเล่าถึงตัวตนของเจ้าของ ประสบการณ์และชัยชนะ การต่อสู้หรือเรื่องสำคัญอื่น ๆ

การที่ชาวโพลีนีเซียนถูกยกย่องว่าเป็นนักเดินทะเลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด (เหนือนักรบไวกิง) ทำให้มีปรากฏลวดลายของรอยสักที่เกิดขึ้นกับลูกหลานชาวโพลีนีเซียนกระจัดกระจายอยู่ทั่วหมู่เกาะทะเลใต้ ตั้งแต่ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี ฟิจิ ซามัวหรือตาฮิติ อาจจะเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์และความเป็นเอกลักษณ์ไปบ้าง แต่ก็ยังคงสื่อถึงความเชื่อเกี่ยวกับพลังแห่งธรรมชาติ รวมไปถึงนำลวดลายตามธรรมชาติ สัตว์น้ำ พืชพันธุ์มาเป็นรูปแบบของลวดลายด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น การเดินทางของบรรพบุรุษชาวโพลีนีเซียนยังไกลมาถึงหมู่เกาะฮาวายซึ่งอยู่ห่างไปแสนไกล แต่ลวดลายของรอยสักที่เรียกได้ว่ามีที่มาจากแหล่งเดียวกันคือเครื่องบ่งชี้ความสัมพันธ์ระหว่างชาวเกาะทะเลใต้กับชาวฮาวายได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบันรอยสักแบบชาวเผ่าทะเลใต้หรือแบบชาวโพลีนีเซียนถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวาง มันเป็นรอยสักที่ดูดี มีเอกลักษณ์ที่สวยงาม รวมไปถึงสามารถสร้างสรรค์ได้อย่างไม่จำกัด ทั้งในการสักคลุมพื้นที่กว้างอย่างไหล่หรือแขน สามารถสร้างให้ออกมาเป็นทรงเรขาคณิต หรือสร้างมิติต่าง ทั้งยังทำเป็นเส้นสายที่สามารถดัดหรือเสริมได้ตามใจ รวมไปถึงการสักเพื่อบดบังลวดลายเก่าที่ไม่ต้องการ โดยการลงเส้นและแทบสีดำสนิทปิดภาพเก่าได้ด้วย

รอยสักของชาวโพลีนีเซียนนั้นเกิดจากการตีซ้ำในจุดที่ต้องการสร้างลวดลายหรือสร้างสี โดยใช้น้ำหมึกที่ได้จากยางและสารในธรรมชาติ ซึ่งแตกต่างจากกระบวนการสักด้วยเข็มในปัจจุบัน เช่นเดียวกันกับที่เรื่องราวของลวดลายที่แพร่หลายในวงการสักก็เป็นเพียงแค่รูปแบบของลวดลายเท่านั้น ไม่ใช่ความหมายตามสิ่งที่รอยสักแบบเผ่าของชาวโพลีนีเซียนเคยเป็น